ความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ที่ต้องพัฒนาตัวเองและเตรียมรับมือโดยเฉพาะในเรื่องการทำมาหากิน การทำงาน การสร้างอาชีพ ความเข้าใจในเรื่องงานที่กำลังทำอยู่ เพื่อจะได้วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งในการพัฒนาตนเองให้สามารถอยู่รอดได้ เพราะบางอาชีพกำลังจะล้มหายไปจากโลกจะได้เตรียมรับมือ
แต่ละคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกันไปตามความรู้และประสบการณ์ของตนเอง แต่ผู้เขียนมองเฉพาะในแง่มุมของการทำอาชีพ จุดอ่อน จุดแข็ง และความเปลี่ยนแปลงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อจะได้เตรียมรับมือ และใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขกับโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
การทำงาน อาชีพ ช่องทางสร้างรายได้ที่หลากหลาย
การทำงาน อาชีพและช่องทางสร้างรายได้ในยุคนี้ค่อนข้างหลากหลาย คนธรรมดาก็สามารถร่ำรวยได้ โอกาสไม่ต่างไปจากบริษัทยักษ์ใหญ่ เพราะแต่ละคนมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้ไม่ยาก คนธรรมดาสามารถทำเงินได้เดือนหลายล้าน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเรื่องยากที่คนเพียงคนเดียวจะสามารถทำได้ แต่ยุคนี้ทำได้จริง
ตัวอย่างช่องทางต่างๆ ที่ทำให้โอกาสของผู้คนยุคนี้ใกล้เคียงกัน
ความง่ายในการผลิต ขายสินค้าและบริการ
การผลิตสินค้า การขายสินค้าและบริการต่างๆ มีความง่ายกว่าเดิม ผู้ผลิตสามารถขายสินค้าเองได้ หรือขายผ่านตัวแทนทางเว็บไซค์ เช่น เกษตรกรบางรายขายข้าวเองผ่าน Facebook สามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง เรื่องของทำเล ที่ดินที่อยู่อาศัย ไม่มีผลต่อการทำธุรกิจอีกต่อไป บางรายขายอาหารเหนือส่งทั่วประเทศ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจมีปัญหา ผลิตสินค้าได้แล้วแต่ไม่รู้จะไปขายที่ไหน แต่ทุกวันนี้สะดวกมาก
การทำงานอิสระง่ายกว่าการเป็นลูกจ้าง
การทำงานอิสระ งานส่วนตัวมีความง่ายกว่าการเป็นลูกจ้างอย่างมาก เงินลอยอยู่ในอากาศ มีความสามารถในการผลิตสินค้า ก็ทำออกมาขายได้เลย ขายผ่าน Facebook, lazada, Youtube, Instagram, Pjnterest ฯลฯ ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน อยู่ในห้องนอน ก็สามารถทำธุรกิจได้ บางคนรับเขียนบทความ รับอ่านและบันทึกเสียง รับแปลภาษา รับทำวิดีโอ ฯลร มีงานสารพัดที่สามารถทำเป็นอาชีพได้ ขอแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็พอ คนเพียงคนเดียวสามารถสร้างรายได้มากกว่าทั้งบริษัท ไม่ใช่เรื่องแปลก
การสร้างรายได้ผ่าน Youtube หรือขายสินค้าผ่าน Youtube
Youtube เป็นช่องทางสร้างรายได้ ขายสินค้าหรือหาเงินในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม เช่น เด็กบางคนถ่ายทำวิดีโออัพโหลดเข้า Youtube สามารถทำเงินจาก Youtube ได้หลักล้าน เดี๋ยวนี้ทุกคนเปิดช่อง Youtube กันเกลื่อนไปหมด บางคนขายสินค้าผ่านวิดีโอของตนเอง หรือโฆษณาขายสินค้าผ่านวิดีโอใน Youtube
เมื่อ Youtube เป็นแหล่งสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ได้เราได้ ดังนั้นผู้คนในยุคนี้จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ในการสร้างวิดีโอของตนเอง เพื่อให้สามารถสร้างวิดีโอที่จะช่วยขายสินค้าของเราได้ หรืออาจศึกษาหาความรู้เพื่อรับงานผลิตวิดีโอช่วยขายสินค้าแนะนำบริการ
การสร้างรายได้หรือขายสินค้าผ่าน Facebook
การขายสินค้าของเราเองหรือเป็นนายหน้าขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค สินค้าพื้นบ้านหลายอย่าง แม้แต่อาหาร อย่างไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม และอาหารสดอีกหลายประเภทก็ยังสามารถทำการตลาด ขายผ่านเฟสบุ๊คได้ ดังนั้นแม้จะเป็นชาวบ้าน คนธรรมดาทั่วไป หากมีสินค้าที่โดนใจ ก็มีโอกาสรวยได้ โอกาสของแต่ละคนเริ่มใกล้เคียงกันมากขึ้น อยู่ที่ใครจะลงมือทำ
การใช้งาน Facebook จึงไม่ควรหยุดไว้แค่การเช้าไปดูเฟส ดูเพจ ของคนอื่นเท่านั้น แต่ต้องศึกษาแบบเจาะลึกในเรื่องการทำการตลาด เพื่อให้สามารถสร้างเป็นอาชีพได้ ซึ่งจะยากกว่าการเล่นเฟสบุ๊คแบบธรรมดาทั่วไป นี่คือตัวอย่างการพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่เข้ากับยุค 4.0
การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ เว็บบล็อก ของตัวเอง
นอกจาก 2 ช่องทางยอดนิยมดังกล่าว การสร้างเว็บไซต์ สร้างเว็บบล็อก เป็นพื้นฐานความรู้ที่ต้องศึกษาให้เป็น โดยเฉพาะการสร้างเว็บไซต์ประเภทร้านค้าแบบต่างๆ ซึ่งจะเป็นช่องทางช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืน เพราะเว็บไซต์เป็นของเราเอง ต่างจาก Youtube หรือ Facebook โดนลบหรือลบเมื่อไรก็ได้
การขายสินค้าผ่านเว็บไซค์ตัวแทนช่วยกระจายสินค้า
เว็บไซต์ตัวแทนขายสินค้าอย่าง Lazada, Amazon, Shoptify, eBay ฯลฯ เป็นอีกช่องทางที่สามารถกระจายสินค้าได้เร็ว เมื่อผลิตสินค้าได้แล้วจึงไม่ต้องกังวลกับการขายและจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะขายในไทยหรือทั่วโลกอย่าง Amazon และ eBay การรับเงินก็สะดวกเช่นกัน
พื้นฐานความรู้ที่จำเป็นต้องศึกษา
การสร้างรายได้จากเว็บไซต์ในรูปแบบอื่นๆ
ในยุค 4.0 เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีความสามารถแต่ไม่มีทุน เพราะยังมีช่องทางสร้างรายได้อีกมากมาย แม้จะไม่มีทุนทรัพย์มากมายแต่หลายคนก็สามารถสร้างรายได้หลักแสนบาทต่อปีหรือต่อเดือนได้สบายๆ เช่น การทำเว็บไซต์นายหน้าขายสินค้า การทำเว็บไซต์หารายได้จากการคลิกโฆษณา เป็นต้น
ตัวอย่างช่องทางที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น จะเปิดโอกาสให้ผู้คนทุกกลุ่ม ทุกชนชั้นมีโอกาสสร้างความมั่งคั่ง สร้างอาชีพได้ เพียงแต่ต้องรู้ว่าพื้นฐานความรู้อะไรที่สำคัญ ที่จะต้องลงมือศึกษา เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี่ อินเตอร์เน็ตหรือความสามารดดีๆ ของสมาร์ทโฟนได้ เพราะทุกวันนี้ ผู้คนนิยมค้นหาข้อมูลสินค้า และซื้อสินค้าผ่านมือถือ อนาคตก็จะได้รับความนิยมมากกว่านี้
ความสะดวกในการซื้อสินค้าและจัดส่งสินค้า
ปัจจุบันการสั่งซื้อสินค้ามีความสะดวกมาก เราสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านมือถือได้ทันที และมีบริการส่งสินค้าถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว สะดวก ประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง นั่นคือความสะดวกสบายในฝั่งผู้ซื้อสินค้า
แต่ในฝั่งผู้ขายสินค้าเองก็เช่นกัน ผู้ขายสินค้าอาจจะขายสินค้าผ่านวิดีโอ Youtube ของตนเองหรือลงโฆษณา หรือขายผ่าน Facebook หรือขายผ่านเว็บไซต์ หรือขายผ่านเว็บไซต์ฝากขายสินค้าอย่าง lazada.co.th ด้วยระบบใหม่นี้ ทุกคนจึงมีโอกาสขายสินค้าของตนเองได้หลายช่องทาง มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น และอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานหาเงินได้
ความสะดวกในการซื้อสินค้าและจัดส่งสินค้าจะช่วยเพิ่มโอกาสของคนธรรมดาทั่วไปให้มีความสามารถในการแข่งขันกับหน่วยงานที่เป็นบริษัทได้ แม้จะทำงานเพียงคนเดียว แต่ก็สามารถทำยอดขายแซงหน้าบริษัทที่มีพนักงานหลายคนได้ หากเจ้าของบริษัทมีความสามารถทำเองได้ พนักงานก็เตรียมตัวตกงาน ดังนั้น นี่คือมุมมองที่พนักงานในบางอาชีพจะต้องเตรียมรับมือกับสถานภาพ ว่างงาน
ธุรกิจหรืออาชีพประเภทใดบ้างที่จะเริ่มหายไป
คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต และอินเตอร์เน็ต ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้อย่างมาก การใช้งานคอมพิวเตอร์จะค่อนข้างยาก และเป็นเช่นนั้นอยู่หลายปี แม้จะมีอินเตอร์เน็ต มีบริการต่างๆ มากมาย แต่คนส่วนใหญ่น้อยคนจะสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ ทำให้โอกาสในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ ต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องยาก แต่เมื่อมือถือสมาร์ทโฟนได้เข้ามา ความง่ายในการใช้งาน และเข้าถึงสื่อต่างๆ บริการต่างๆ ได้ทำให้ผู้คนธรรมดา ชาวบ้าน สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต สื่อ บริการ หรือสินค้าต่างๆ ได้ ซึ่งส่งผลให้ ธุรกิจบางประเภทต้องหายไป เช่น
1. การผลิตสื่อ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ หนังสือบางประเภท
เราอาจจะได้เห็นข่าวของสำนักพิมพ์ดังๆ ที่มีอายุหลายสิบปี ทยอยปิดตัวลง เพราะในอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลที่อยากและ เราสามารถใช้มือสถือค้นหาข้อมูลได้ตามต้องการ ในแต่ละวันก็มีผู้คนจากทั่วโลก ต่างทยอยสร้างเนื้อหาต่างๆ ลง Facebook ของตนเอง ลงเว็บไซต์ หรือทำเป็นวิดีโอลง Youtube ที่สำคัญก็คือ ฟรี ทำให้ธุรกิจการผลิตหนังสือต้องหยุดกิจการลง
แต่... ธุรกิจนี้ก็ยังสามารถไปได้ เพียงแต่มีบางประเภทเท่านั้น เช่น ตำราวิชาการ หรือเนื้อหาเฉพาะทาง นิยาย เรื่องส้้น หรือเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่สามารถค้นหาได้จากอินเตอร์เน็ต ในมุมมองของผู้เขียนจะมองว่า ยังมีสื่อหรือหนังสือที่สามารถขายได้ นั่นก็คือ หนังสือสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นหรือเข้าสู่ระบบใหม่นี้ อย่างการทำการตลาดผ่าน Youtube, Facebook หรือเว็บไซต์ หนังสือที่ขายดี จึงเป็นหนังสือแนวนี้ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่คนกลุ่มนี้ไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อน
ไม่เพียงสำนักพิมพ์ที่จะทยอยปิดตัว แต่ร้านหนังสือเองก็เช่นกัน ที่ได้รับผลกระทบ เพราะเมื่อสำนักพิมพ์ปิดตัวลง ก็ไม่มีหนังสือ และในอินเตอร์เน็ตก็มีสื่อและความรู้ต่างๆ มากมายที่อ่านได้ฟรี ดังนั้นในอนาคตได้รับผลกระทบแน่นอน
2. อาชีพพ่อค้าคนกลาง
พ่อค้าคนกลางในบางอาชีพหรือบางธุรกิจจะหายไป โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสื่อ อย่างหนังสือ หรือแม้แต่สินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไปก็ตาม เพราะ มีพ่อค้าคนกลางรายใหม่ในอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ฝากขายสินค้าอย่าง lazada หรือการขายสินค้าเองโดยตรงระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อสินค้า
3. อาชีพที่เทคโนโลยี่สามารถทดแทนได้
ปัจจุบันมีหลายอาชีพที่เทคโนโลยี่สามารถทดแทนได้ ธนาคารเริ่มลดสาขาลง พนักงานแบงก์ถูกปลดมากขึ้น ยังมีงานอีกมากที่มีการนำระบบ AI ระบบหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนมนุษย์ หลายอาชีพจึงมีแนวโน้มตกงานทั้งชาติ
4. อาชีพเกี่ยวกับการให้ความรู้
ครูอาจารย์ วิทยากรต้องรีบปรับตัว เพราะปัจจุบันนี้ ในเน็ต Facebook, Google หรือ Youtube ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ขนาดใหญ่ อีกทั้งคนก็เกิดน้อยลง ในอนาคตสถานศึกษาต่างๆ จะต้องลดบุคลากรลง ครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่ด้านต่างๆ ก็เตรียมตัวตกงาน เรื่องนี้สำคัญมากต้องเตรียมรับมือ
5. อาชีพช่างบางสาขา
อาชีพช่างเป็นอาชีพที่สร้างรายได้จากความรู้ แต่ปัจจุบันความรู้หลายแขนงถูกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บไซค์และวิดิโอใน Youtube ลูกค้าสามารถทำเองได้ อย่างการซ่อมมือถือเองเบื้องต้น เปลี่ยนจอ เปลี่ยนแบตเตอรี่ เป็นต้น ช่องทางทำมาหากินลดน้อยลง ห็ต้องเตรียมรับมือเช่นกัน
ยังมีอีกหลายอาชีพที่จะได้รับผลกระทบ เรื่องนี้สำคัญที่จะต้องรู้ว่า อาชีพหรืองานของตนเองนั้นจะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้หรือไม่ เพื่อจะได้หาทางปรับตัวให้พร้อมรับมือ เช่น พนักงานขาย อาจจะต้องศึกษาวิธีทำการตลาดผ่าน Youtube, Facebook หรือเว็บไซต์เพื่อช่วยขายสินค้า หรือเป็นนายหน้าขายสินค้าอีกที บางคนนั้นไม่มีสินค้าเป็นของตนเอง แต่อาศัยการติดต่อกับร้านค้าต่างๆ เพื่อขอเป็นนายหน้าขายสินค้าโดยตรง ถ่ายภาพ เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า แล้วนำมาโพสต์ขายผ่าน Facebook สามารถทำยอดขายได้ 6-7 หลักต่อเดือนเลยทีเดียว นี่คือตัวอย่างการปรับตัวที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
การศึกษา พัฒนาตนเองเพื่อใช้ชีวิตในยุค 4.0
เพื่อความสามารถในการเอาตัวรอด สร้างโอกาสในการทำงาน ทำเงิน ทำธุรกิจ และใช้ชีวิตในยุคนี้อย่างมีความสุข การศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองในด้านต่อไปนี้จึงเป็นเรื่องที่จะต้องทำ 1. ศึกษาเกี่ยวกับมือถือสมาร์ทโฟน แนวทางประยุคใช้งาน คุณสมบัติ หรือการใช้งานที่จำเป็น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ทำมาค้าขาย เพราะนี่คือช่องทางที่ผู้คนใช้เพื่อเข้าถึงสื่อ บริการและสินค้าต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต เป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เรียนรู้ได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ธุรกิจค้าขายบนเน็ตไม่เฟื่องฟูเหมือนยุคนี้นั่นเอง เมื่ออุปกรณ์ชิ้นนี้มีความสำคัญ การศึกษาให้เข้าใจ เพื่อหาทางใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าจึงเป็นเรื่องจำเป็น 2. ศึกษาเกี่ยวกับวิดีโอ การจัดทำวิดีโอ การโปรโมตสินค้าผ่านวิดีโอ Youtube โดยใช้แอปต่างๆ ในมือถือ อาจจะเพื่อทำตลาดเองหรือเป็นนายหน้าขายสินค้า เป็นเซลล์ออนไลน์ 3. ศึกษาเกี่ยวกับการทำการตลาดผ่านเฟสบุ๊ค อาจจะเพื่อทำตลาดเองหรือเป็นนายหน้าขายสินค้า เป็นเซลล์ออนไลน์ 4. ศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์และทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ อาจจะเพื่อทำตลาดเองหรือเป็นนายหน้าขายสินค้า เป็นเซลล์ออนไลน์ หรือหาช่องทางสร้างรายได้จากเว็บไซต์ แม้แต่การทำเว็บไซต์เพื่อขายต่อ ก็สามารถทำได้เช่นกัน 5. ศึกษารูปแบบการซื้อสินค้า การชำระเงิน การจัดส่งสินค้า 6. ศึกษาการผลิตสินค้าประเภทคอนเทนต์ คอนเทนต์คือเนื้อหา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องใช้ใน Youtube, Facebook เว็บไซต์หรือสื่อประเภทอื่น เช่น - วิดีโอเป็น คอนเทนต์หรือเนื้อหาสำหรับอัพโหลดเข้า Youtube - โพสต์ วิดีโอ ข้อความอินโฟกราฟิค พวกคำคม ข้อคิดต่างๆ เป็นคอนเทนต์หรือเนื้อหาสำหรับโพสต์ใน Facebook - บทความต่างๆ ภาพประกอบบทความ ข้อมูลรายละเอียดสินค้า เป็นคอนเทนต์หรือเนื้อหาสำหรับใส่ในเว็บไซต์ บล็อก 7. ศึกษาสร้างความรู้ด้านวิชาชีพ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าของตัวเองและสร้างรายได้ ในอนาคต 8. ศึกษาวิธีลดต้นทุนในการดำเนินชีวิต เช่น ใช้ชีวิตเรียบง่าย ลดการใช้วัตถุหริอครอบครองทรัพย์สินที่มีรายจ่ายสูง เพื่อช่วยลดรายจ่ายในการดำรงชีพ เตรียมรับมือ หากตกงานหรือต้องทำงานที่รายรับน้อยลง
หากมองในแง่ของโอกาสที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว โอกาสทำมาหากินแล้ว ในความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมองว่า ยุคนี้เริ่มเท่าเทียมกัน อยู่ที่ความขยันในการศึกษาหาความรู้เพื่อสร้างอาชีพโดยตรง โดยไม่มีเรื่องของวุฒิการศึกษามาเกี่ยวข้องมากนัก เน้นความสามารถเฉพาะตัว ความรู้ ประสบการณ์ก็สามารถสร้างรายได้ หรือมีชื่อเสียงได้ ซึ่งมีหลายคนที่เป็นตัวอย่างได้อย่างดีเช่น - การเป็นนักร้อง ไม่จำเป็นต้องไปประกวดไปไปคัดเลือก หรือเข้าระบบของบริษัท บางคนทำเพลง อัพโหลดเข้า Youtube ทำยอดวิวได้สูง ก็มีแมวมองติดต่อ หรือมีงานข้ามา มีรายได้จาก Youtube บางคนหลักหมื่น มากกว่าคนจบปริญญาเอก - การทำสินค้าใดๆ ขึ้นมาเพื่อจำหน่าย หากสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด ผลิตออกมาในช่วงเวลาและโอกาสที่เหมาะสมก็พร้อมทำเงินให้อย่างมากเช่นกัน - การขายสินค้าต่างๆ ทั้งในประเทศและทั่วโลก หากมีสินค้าของเราเอง ก็สามารถส่งไปฝากขายกับ lazada เพื่อขายในประเทศไทยหรือส่งไปขายกับ amazon หรือ eBay เพื่อขายไปทั่วโลก เป็นต้น ทุกคนสามารถทำได้ โดยไม่ต้องจบปริญญาตรี ปริญญาเอก แต่อย่างใด ขอให้มีความรู้ความสามารถและลงมือทำ - บางคนไม่ได้จบด้านภาษาโดยตรงจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่สามารถผลิตงานเขียน ผลิตหนังสือ เป็นภาษาอังกฤษ ส่งขายได้ทั่วโลก เช่นกัน เพราะสามารถนำงานเขียนไปจ้างแปลเป็นภาษาอื่นได้
ยังมีโอกาสต่างๆ อีกมากมายที่เปิดรอรับ เพียงแต่การศึกษาหาความรู้นั้น ต้องเน้นที่เฉพาะทาง และต้องรู้ว่าความรู้ด้านใด เรื่องไหน เป็นความรู้พื้นฐานที่จะต้องศึกษา ต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งจริง ไม่ใช่เล่น Facebook แช็ท Line ดูวิดีโอ Youtue ไปวันๆ ไม่ทำตัวเป็นเพียงผู้ใช้บริการ แต่ต้องสามารถผลิตบริการให้คนอื่นได้ จึงจะมีช่องทางสร้างรายได้ สร้างอาชีพของตนเอง และมีชีวิตอยู่กับยุค 4.0 ได้อย่างมีความสุข