Sponsored Ads

การพัฒนาเว็บไซท์

รวมบทความและหนังสืออธิบายเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซท์ โดยนำเสนอวิธีใช้งานโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโฮมเพจ เช่น การใช้งาน Dreamweaver ใช้งาน Joomla รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ ฯลฯ

 

ติดตั้งโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ทำงานกับ Virtuemart
เป็นการติดตั้งโปรแกรมในเครื่องของเราเพื่อจำลองให้เครื่องเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยจะทำการติดตั้ง โปรแกรม Appserv ลงไป เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย
1. ตัวอย่างไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา เช่น appserv-win32-2.4.9.exe ให้ดับเบิ้ลคลิกไฟล์นี้
2. จะเข้าสู่หน้าจอติดตั้ง คลิกปุ่ม Next
3. หน้าจอ License Agreement ข้อตกลงในการใช้โปรแกรม คลิกปุ่ม I Agree

4. ช่อง Destination เป็นตำแหน่งที่จะติดตั้ง แนะนำให้เลือกไดรว์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ไดรว์ C: เช่น D:\appserv
5. คลิกปุ่ม Next ทำงานต่อ
6. ส่วนประกอบของโปรแกรมที่ต้องการติดตั้ง คลิกปุ่ม Next ทำงานต่อ

 

7. หน้าจอ Server Info ช่อง Server Name คลิกและพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ ชื่อมาตรฐานที่นิยมใช้กัน ก็คือ localhost
8. คลิกและพิมพ์ email
9. คลิกปุ่ม Next
10. คลิกและพิมพ์รหัสผ่าน สำหรับใช้งานฐานข้อมูล MySQL จะใช้ตัวเดียวกันกับที่ใช้เข้าเว็บไซต์ จริงก็ได้
11. รูปแบบของอักขระ คลิกเลือก tis620
12. คลิกปุ่ม Install


13. โปรแกรมจะเริ่มก็อปปี้ไฟล์ลงเครื่อง
14. เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Finish

ทดสอบการทำงานหลังการติดตั้งโปรแกรม Appserv
หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว ก็ทดสอบการทำงานโดยเรียกใช้งานโปรแกรม Apache และ MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมระบบฐานข้อมูลทุกครั้งก่อนจะทดสอบการทำงานของเว็บเพจ PHP ต้องเรียก 2 โปรแกรมนี้ให้ทำงานก่อน แต่ปกติโปรแกรมจะถูกกำหนดให้ทำงานทันทีที่เข้า Windows
1. ทดสอบการทำงานโดยเข้าโปรแกรม Internet Explorer คลิกและพิมพ์ http://localhost แล้ว กด Enter ชื่อ localhost เป็นชื่อเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งไว้ในขั้นตอนการติดตั้ง appserv
2. ถ้าปรากฏหน้าจอโปรแกรมดังตัวอย่างก็แสดงว่า โปรแกรมสามารถใช้งานได้แล้ว
3. คลิกหัวข้อต่างๆ เพื่ออ่าน
4. คลิกเลือกภาษาได้ (ไทยหรืออังกฤษ) เป็นรายการคำสั่งภาษาไทยหรืออังกฤษ

ดูข้อมูลรายชื่อไฟล์ของโปรแกรม Appserv
หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว เราก็จะไปดูกันว่า ไฟล์ต่างๆ ของโปรแกรมนี้ถูกเก็บไว้ที่ไหนและมี ไฟล์อะไรบ้าง
1. เข้าโปรแกรม Windows Explorer
2. คลิกเลือกไดรว์ที่ได้ติดตั้งโปรแกรม Appserv ไว้ เช่น Local Disk (C:)
3. คลิกที่โฟลเดอร์ www
4. ภายในจะมีโฟลเดอร์ appserv phpmyadmin และไฟล์เว็บเพจชื่อ index.php
5. ไฟล์ตัวนี้ก็คือหน้าจอที่ปรากฏออกมาเมื่อพิมพ์ http://localhost แล้วกดปุ่ม Enter

เว็บเซิร์ฟเวอร์ในอินเตอร์เน็ต
การใช้งานเว็บไซต์จริงในอินเตอร์เน็ต จะมีการติดตั้งโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ไว้แล้ว โดยผู้ที่ให้เช่า พื้นที่หรือให้บริการฟรีพื้นที่ทำเว็บไซต์ เราจึงสามารถใช้งานได้เลย โดยเข้า cPanel

 

สร้างโฟลเดอร์เก็บข้อมูลให้เหมือนเว็บไซต์จริง
จะเป็นการสร้างโฟลเดอร์หรือไดเรคทอรีไว้เก็บไฟล์ต่างๆ ของเว็บไซต์ในเครื่องของเรา ให้เหมือน การเก็บไฟล์ในเว็บไซต์จริงๆ จะช่วยให้การจัดการไฟล์สามารถทำได้ง่าย และการจัดการกับเว็บไซต์จริงก็จะ ทำได้ง่ายเช่นกัน เพราะข้อมูลตรงกัน

การติดตั้งโปรแกรม VirtueMart ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอง
A. สร้างฐานข้อมูล MySQL
1. สร้างฐานข้อมูล MySQL สำหรับเก็บไฟล์ข้อมูลของ Joomal! คลิกและพิมพ์ http://localhost/ phpmyadmin แล้วกด Enter
2. พิมพ์ Username = root ส่วนรหัสผ่าน ก็ตามที่ได้กำหนดไว้ในการติดตั้ง Appserv
3. คลิกและพิมพ์ชื่อฐานข้อมูลเช่น vmart แล้วคลิก Create

B. เริ่มต้นติดตั้งโปรแกรม VirtueMart
1. ในไดเรคทอรี www สร้างไดเรคทอรีเก็บไฟล์ของโปรแกรมเช่น kcamp และเก็บไฟล์โปรแกรม VirtueMart ไว้ในโฟลเดอร์ vmart
2. ในโฟลเดอร์ vmart จะมีไฟล์ติดตั้งอยู่ในไดเรคทอรีย่อยชื่อ installation
3. การติดตั้งจะพิมพ์ ชื่อเว็บไซต์/joomla/installation ตัวอย่างเช่น
http://localhost/kcamp/vmart/installation
4. ชื่อเว็บไซต์ http://localhost จะมาจากการตั้งชื่อเซิร์ฟเวอร์ในขณะติดตั้งโปรแกรม Appserv ตั้งชื่อไว้อย่างไร ก็เรียกใช้งานตามนั้น

5. ขั้นตอนในการติดตั้งก็เหมือนการติดตั้งในเว็บไซต์จริงๆ เพียงแต่การตั้งค่าการเรียกใช้งานฐาน ข้อมูล MySQL จะไม่เหมือนกัน
- ชื่อโฮส (Host Name) ใช้ชื่อตามชื่อเว็บไซต์ที่เราได้ตั้งไว้ ขณะติดตั้ง Appserv ของผู้เขียนจะ ใช้ localhost
- ชื่อฐานข้อมูล ได้สร้างไว้แล้วด้วย phpmyadmin ชื่อ vmart
- ชื่อผู้ใช้ ให้ใช้ root
- รหัสผ่าน พิมพ์ตามที่ได้สร้างไว้ในการติดตั้ง MySQL

Tips & Tricks
การทดสอบการสร้างเว็บไซต์ในเครื่องของเราเอง ค่อนข้างสะดวกในการปรับแต่ง เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถอัพโหลดไปไว้ในเว็บไซต์จริงได้ โดยใช้โปรแกรม Joomlapack ซึ่งเหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา มากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของร้านจริง แนะนำให้สร้างในเว็บไซต์จริงไปเลย สร้างไปแต่งไป ขายไป
ส่วนท่านใดที่ต้องการติดตั้งโปรแกรมเพื่อทดสอบการสร้างเว็บไซต์ในเครื่องของเราเอง นอกจาก Appserv แล้ว ก็ต้องติดตั้งโปรแกรมที่ทำหน้าที่เมล์เซิร์ฟเวอร์ด้วย ก็จะสามารถทดสอบการรับส่งข้อมูล ผ่านทางอีเมล์ได้คล้ายกับการทดสอบจริงบนอินเตอร์เน็ต

 

 

เวอร์ทูมาร์ท (VirtueMart) เป็นโปรแกรมสร้างร้านค้าออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต เป็นอีกรูป แบบหนึ่งของการขายสินค้าแบบออนไลน์ เข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่ มีวันหยุด ไม่ต้องมีพนักงานเฝ้าร้าน ค่าใช้จ่ายในการสร้างร้านค้าออนไลน์ก็ไม่แพง
นอกจากโปรแกรมนี้แล้วก็ยังมี OSCommerce แต่ VirtueMart จะมีความน่าสนใจ มากกว่า เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ Joomla ซึ่งมีโปรแกรมเสริมการทำงานให้เลือกมากมาย

VirtueMart เหมาะกับใคร
เหมาะกับทุกคนที่คิดจะทำการค้า อยากขายสินค้า โดยลงทุนน้อยที่สุดแต่มีโอกาสทำกำไร ได้มากที่สุด เพราะคนเข้าชมจะมีอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลก ถ้ามีการสั่งซื้อเป็นร้อยเป็นพันรายการ ก็ทำกำไร มากกว่าการเปิดร้านจริงๆ เพราะร้านจริงๆ ผู้ที่จะใช้บริการก็เฉพาะคนในพื้นที่ สำหรับ มือใหม่ที่อยากขายสินค้า การเปิดร้านค้าออนไลน์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย มาก ได้ทดลองทำ ทดลองขาย ไม่สำเร็จก็ขาดทุนไม่มากมายอะไร


ส่วนกรณีที่มีร้านค้าจริงอยู่แล้ว การเปิดร้านค้าออนไลน์จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ เพราะสินค้า ที่มีมาตรฐานหรือเป็นที่รู้จักกันอย่างดีแล้ว คนก็จะกล้าสั่งซื้อ เพราะมีความคุ้นเคยกับสินค้านั้นๆ อยู่แล้ว แต่ในเรื่องการค้าขายนั้น ไม่มีอะไรตายตัว บางอย่างที่เราคิดว่า ไม่น่าจะขายได้ แต่จริงๆ แล้วสามารถขายได้

คุณสมบัติโดยรวมของโปรแกรม VirtueMart
1. สามารถใส่สินค้าลงในร้านได้ไม่จำกัดจำนวน เหมือนการขอฟรีเว็บไซต์หรือเปิดร้านค้า ฟรีกับเว็บไซต์บางแห่ง เช่น ที่ tarad.com สำหรับร้านค้าฟรี จะให้ใส่สินค้าได้เพียง 35 รายการหรือ 35 ชิ้นเท่านั้น
2. การเปิดร้านค้า อาจกำหนดให้แสดงสินค้าแบบโชว์ตัวอย่าง ให้เข้ามาเลือกชมทาง อินเตอร์เน็ตได้ แต่ไม่มีการซื้อขาย เพราะการซื้อขายจริงอาจกระทำผ่านตัวแทนจำหน่ายก็ได้ ราคา สินค้าสามารถซ่อนหรือแสดงได้
3. สามารถขายสินค้าประเภทให้ดาวน์โหลดได้ เช่น กรณีที่เป็นค่ายเพลง ก็สามารถขายไฟล์ เพลง MP3 ได้ โดยให้ลูกค้าดาวน์โหลดได้เลย หลังจากชำระเงินแล้ว
4. การบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ ทำผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย สะดวกในการใช้งาน อยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการกับสินค้า คำสั่งซื้อจากลูกค้า เขียนบทความลงในร้านค้า ฯลฯ สามารถ ทำได้ตลอดเวลา
5. ข้อมูลรายการสินค้าสามารถใช้ไฟล์แบบ CSV ได้ ซึ่งจะช่วยให้การเพิ่ม ลด แก้ไขข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าเป็นเรื่องง่าย เพราะไฟล์แบบ CSV สามารถแก้ไขด้วยโปรแกรม Excel ได้
6. สามารถใส่ภาพสินค้า หรือแนบไฟล์แสดงรายละเอียดของสินค้าได้
7. เพิ่มคุณสมบัติแยกย่อยของสินค้าได้ เช่น เสื้อผ้ามีหลายขนาด แต่ละขนาดก็มีหลายสี ให้เลือก เป็นคุณสมบัติแยกย่อย
8. จัดการสินค้าแยกเป็นกลุ่มได้ เช่น กลุ่มสมาชิกพิเศษก็จะแสดงราคาสินค้าในราคาพิเศษ เฉพาะกลุ่มสมาชิกเหล่านั้น แต่อีกกลุ่มจะเห็นในอีกราคาหนึ่ง
9. กำหนดราคาสินค้าแยกตามกลุ่มลูกค้าได้
10. แสดงราคาสินค้าแบบรวมหรือไม่รวมภาษีได้
11. แสดงสถิติหรือข้อมูลการเข้ามาใช้บริการร้านค้า สรุปรวมจำนวนผู้เข้าชม ดูออร์เดอร์ สินค้า ฯลฯ
12. มีระบบจัดการกับสินค้าในสต็อก
13. มีระบบแจ้งเตือนลูกค้า เมื่อมีสินค้าเข้ามาในร้าน
14. ใช้การคิดภาษีแบบแยกประเทศได้
15. มีระบบจัดการเรื่องการจัดส่งสินค้าและอัตราค่าจัดส่งได้
16. มีระบบจัดการกับคำสั่งซื้อสินค้า เช่น ดูประวัติการสั่งซื้อสินค้าได้
17. แจ้งเตือนลูกค้า แก้ไขรายการสั่งซื้อได้
18. มีรูปแบบรายงานแบบต่างๆ เช่น รายงานการขายแยกเป็นเดือน เป็นปี
19. จัดการกับสถานะการสั่งซื้อได้
20. ลูกค้าสามารถเพิ่มข้อมูลสถานที่จัดส่งสินค้าของตนได้
21. มีแบบฟอร์มให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลสินค้าได้
22. กำหนดให้สินค้าใดๆ เป็นสินค้าโปรโมชันพิเศษได้
23. มีระบบแจ้งลูกค้าให้ทราบเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สินค้าสามารถวางจำหน่ายได้
24. ลูกค้าจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียนเป็นสมาชิกที่เคยสมัครเป็นสมาชิกได้
25. ลูกค้าดูข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าทั้งหมดของตนเองได้
26. มีระบบจัดการการเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศได้
27. มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสแบบ SSL
28. รองรับระบบการชำระเงินหลายแบบ เช่น Paypal, Paysbuy
29. มีโปรแกรมเสริมช่วยบริหารจัดการร้านค้ามากมายให้เลือกใช้

รูปแบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ VirtueMart
1. การจัดการด้านหลังหรือ Backend เป็นการปรับแต่งร้านค้า เพิ่มลบข้อมูลสินค้า ฯลฯ โดยเจ้าของร้านค้าหรือผู้ดูแลเว็บไซต์
2. ผลการปรับแต่งหรือ Frontend ลูกค้าจะเห็นส่วนนี้ เป็นหน้าร้านค้า

หน้าจอและส่วนประกอบต่างๆ VirtueMart
A. หน้าจอในส่วนผู้ดูแลระบบ
VirtueMart
เป็นหน้าจอโปรแกรมในส่วนของผู้ดูแลระบบหรือเจ้าของร้าน จะมีคำสั่งในการปรับแต่งให้ เลือกใช้ จะแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นของโปรแกรม Joomla ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักและส่วนที่ เป็นของโปรแกรม VirtueMart ซึ่งเป็นโปรแกรมเสริมที่ถูกรวมเข้ากับจูมล่า ถ้าจะศึกษาให้ละเอียด ก็ต้องศึกษาทั้ง Joomla! และ VirtueMart
1. ในหน้าจอหลักของ Joomla คลิกที่ คอมโพเน้นท์>>VirtueMart
2. จะพบหน้าจอสำหรับปรับแต่ง VirtueMart
3. ไอคอนเรียกคำสั่งปรับแต่งส่วนต่างๆ ของร้านค้าแบบด่วน
4. สถิติดูการเข้าใช้บริการร้านค้า ข้อมูลสินค้า การสั่งซื้อ ฯลฯ
5. โครงร่างแบบง่าย แสดงหน้าจอการปรับแต่งร้านแบบง่ายๆ
6. โครงร่างแบบขยาย แสดงหน้าจอการปรับแต่งโปรแกรมอีกรูปแบบหนึ่ง แสดงคำสั่งให้ เลือกในการปรับแต่งค่อนข้างละเอียด มือใหม่แนะนำให้เลือกแบบแรกไปก่อน เมื่อเข้าใจดีแล้ว จะ เลือกแบบใด ก็ไม่ต่างกัน เรียกใช้งานได้เหมือนกัน
7. คำสั่งสำหรับปรับแต่ง จะแยกเป็นหมวดๆ เช่น การตั้งค่า ผู้ใช้งาน ฯลฯ
8. รายละเอียดคำสั่งสำหรับปรับแต่งร้านทั้งหมด
- ผู้ดูแลระบบ บริหารจัดการกับรายชื่อผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ถ้าเป็นร้าน ค้าเล็กๆ มีเจ้าของคนเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวายกับส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นร้านค้าขนาดใหญ่จำเป็น ต้องมีคนช่วยกันดูแลหลายคน ก็สร้างรายชื่อผู้ดูแลเพิ่มเข้าไป
- การตั้งค่า คำสั่งสำหรับกำหนดคุณสมบัติของร้านค้าออนไลน์ ตั้งค่าต่างๆ ให้ร้านค้า
- ผู้ใช้งาน กำหนดค่าเกี่ยวกับผู้ใช้งานที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ของเรา
- กลุ่มสมาชิก คำสั่งสำหรับบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกของร้านค้า จัดลูกค้าเป็น กลุ่มๆ เช่น กลุ่มผู้ดูแลระบบ (Admin) กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้าน (Shopper) เป็นต้น
- จัดการ User คำสั่งจัดการกับฟิลด์รายชื่อการสมัครเป็นสมาชิกของร้านค้า
- ประเทศ กำหนดค่าเกี่ยวกับประเทศต่างๆ กรณีที่เป็นขายจำหน่ายสินค้าไปทั่วโลก
- สกุลเงิน กำหนดค่า กำหนดสกุลเงินที่จะใช้ซื้อขายสินค้าในร้านค้า
- โมดูล ปรับแต่งโปรแกรมเสริมการทำงานให้กับร้านค้าออนไลน์
- Check for Updates ตรวจสอบการอัพเดทเวอร์ชันของ VirtueMart ให้เป็นรุ่นที่ทันสมัย อยู่ตลอดเวลา
- ร้านค้า กำหนดค่าเกี่ยวกับร้านค้า
- สินค้า กำนหนดค่าเกี่ยวกับสินค้า เพิ่มข้อมูลสินค้า แก้ไขข้อมูลสินค้า เป็นต้น
- ผู้ซื้อ กำหนดค่า กำหนดการใช้งานสำหรับผู้ซื้อ ที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้าน
- รายการสั่งซื้อ บริหารจัดการ รายการคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมร้าน
- ผู้ขาย กำหนดค่าเกี่ยวกับผู้ขายสินค้า
- รายงาน สร้างรายงานสรุปผลข้อมูลในร้านค้าแบบต่างๆ เช่น รายงานยอดขายประจำเดือน ประจำปี ฯลฯ
- ภาษี กำหนดเกี่ยวกับภาษีในการซื้อขายสินค้าในร้าน

B. หน้าจอโปรแกรมในส่วนลูกค้าเข้าชมร้านค้า
เป็นหน้าจอร้านค้าออนไลน์ที่จะแสดงให้ลูกค้าที่เข้าชมร้านได้เห็น ว่าร้านมีหน้าตาอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
1. โลโก้ร้านค้า สามารถเปลี่ยนเป็นของเราเองได้
2. รถเข็น เก็บรายชื่อสินค้าที่ลูกค้าได้เลือกซื้อ สำหรับดูข้อมูลสินค้าที่ได้เลือก ซึ่งจะแสดง ออกมาโดยรวมตัวเลขราคาสินค้าทั้งหมดแล้ว
3. Main Menu เมนูคำสั่งให้เลือกการทำงาน สามารถปรับแต่งได้ เช่น หน้าแรก สินค้า วิธีชำระเงิน วิธีสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น
4. ส่วนแสดงรายการสินค้าแบบ Slide ภาพสินค้าเลื่อนไปมาได้ เมื่อคลิกภาพสินค้าก็จะ แสดงข้อมูลสินค้านั้นๆ ในอีกหน้าจอให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
5. ส่วนแสดงคำสั่งสำหรับการค้นหา การเลือกหมวดสินค้า
6. ส่วนแสดงสินค้าตัวอย่าง โดยจะเลือกสินค้ามาแสดงตามที่เรากำหนด
7. ส่วนแสดงสินค้าแบบสุ่ม นำสินค้าขึ้นมาแสดงบนหน้าจอแบบสุ่ม เลือกจากหมวดใดๆ มาแสดงบนหน้าจอ

8. บทความในร้านค้า อาจเป็นข่าว ประชาสัมพันธ์ ข้อความต้อนรับลูกค้า การแจ้งข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าใหม่ๆ ฯลฯ
9. ส่วนแสดงรายชื่อสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 10 รายการแรกสุด Top Ten

 

10. ส่วนแสดงสินค้าที่มีการเพิ่มเข้ามาล่าสุดในร้านค้า
11. Top Menu แสดงคำสั่งให้เลือกทำงาน หรือใช้งานบริการร้าน ดูข้อมูลเกี่ยวกับร้าน
12. ข้อมูลร้านค้า ชื่อที่อยู่ของร้านค้า