ในยุคนี้อะไรก็เป็นเงินไปหมด ความสามารถเฉพาะตัวทุกอย่างสามารถเปลี่ยนเป็นเงิน สร้างอาชีพได้ อย่างการอ่าน การพูด การเล่า เรื่อง เช่น ทำวิดีโอลง Youtube การทำคอร์สออนไลน์ เปิดคอร์สอบรม เป็นต้น
รูปแบบการสร้างรายได้จากทักษะในการเล่าเรื่อง การพูด การอ่าน
ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกับรูปแบบการทำเงิน การสร้างอาขีพ สร้างรายได้จากทักษะด้านนี้กันก่อน
1. ก่อนอื่นจะต้องศึกษาหาความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ มีผลงานเกี่ยวก็ยิ่งดี
2. ศึกษาทักษะการพูด การเล่าเรื่อง การบรรยาย เกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองมีความรู้
3. ทำการบันทึกเสียง อัดเสียง ซึ่งเราใช้มือถือ Android กันอยู่แล้ว อุปกรณ์ตัวนี้ช่วยในการบันทึกเสียง มิกซ์เสียง นำเสียงไปตัดต่อเป็น วิดีโอในลักษณะสไลด์โชว์ได้
4. อัพโหลดวิดีโอที่ได้เข้า Youtube เมื่อมีคนเข้าชมมากๆ ให้สมัคร Adsense ซึ่งจะแสดงโฆษณาในวิดีโอ หากมีคนคลิกโฆษณาก็จะได้ เงิน
5. ท้ายวิดีโอ อาจจะขายสินค้าของตัวเอง
6. เปิดคอร์สออนไลน์ เช่น https://www.skilllane.com รับเงินจากการขายคอร์ส
7. เปิดอบรม โดยการโฆษณาหาผู้เรียน เช่าสถานที่เพื่อทำการสอน และรับทรัพย์
8. โพสต์วิดีโอของตัวเองใน Facebook ของตนเองเพื่อดึงคนเข้าชม และสร้างรายได้จากการขายสินค้าหรือรับโพสต์
หลักการหาเงิน สร้างรายได้จากทักษณะการอ่าน การเล่าเรื่อง การพูด การบรรยาย ก็จะมีขั้นตอนตามที่กล่าวมา ซึ่งทุกวันนี้หากมี ความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องใด ที่มีคนสนใจ ก็สามารถหาเงินจากความสามารถด้านนั้นๆ ได้ไม่ยาก
ตัวอย่างผลงานวิดีโอหรือคอร์สหาเงินออนไลน์
1. วิดีโอเล่าเรื่อง เช่น เรื่องเล่าของอาจารย์ยอด ใช้ภาพนิ่งหรืออาจจะใช้สไลด์
2. วิดีโอเกี่ยวกับธรรมะ คำสอนต่างๆ น้ำเสียงที่ไพเราะจะทำให้วิดีโอน่าสนใจ อาจจะใช้ภาพนิ่งหรือสไลด์
3. วิดีโอเล่าเรื่อง อ่านหนังสือแล้วมาเล่าให้ฟัง ทั้งหนังสือทั่วไป แต่ที่นิยมมากจะเป็นหนังสือการ์ตูน
4. การทำวิดีโอเป็นคอร์สออนไลน์ ให้สมัครเรียนออนไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ต
5. การทำวิดีโอใน Facebook เพื่อสร้างฐานลูกค้า เมื่อมีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็มีโอกาสทำเงิน จากการขายสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค
6. การเปิดคอร์สอบรมต่างๆ อบรมนอกสถานที่ เช่าสถานที่สำหรับอบรมโดยเฉพาะ
การบันทึกเสียงด้วยมือถือหรือแท็บเล็ต Andorid
อุปกรณ์ที่จำเป็น
ก่อนอื่นให้เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นก่อน เช่น
1. มือถือหรือแท็บเล็ต Android ควรมีคุณสมบัติเด่นๆ เช่น กล้องความละเอียดสูง ซีพียูความเร็วสูง แรมมาก รองรับ OTG สำหรับการ เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
2. หูฟังคุณภาพดี เช่น ของ iPhone การบันทึกเสียงทำได้ง่ายๆ ผ่านไมค์ในหูฟังนั่นเอง
3. ไมค์สำหรับอัดเสียงโดยเฉพาะ มีราคาสูงพอสมควร หากมีทุนค่อยขยับขยาย
ติดตั้งแอปที่จำเป็นในมือถือ
การบันทึกเสียงหรืออัดเสียงจำเป็นต้องติดตั้งแอปต่างๆ ในมือถือเช่น
1. แอป ClearRecordLite แอปสำหรับการบันทึกเสียง จะบันทึกเสียงให้เป็นไฟล์เสียงแบบ Wav หรือ Acc
2. แอป Wave to MP3 Converter แอปสำหรับการแปลงไฟล์เสียง Wav ที่บันทึกไว้ด้วยแอป Audio Recorder ให้เป็นไฟล์เสียงแบบ MP3 เพื่อนำไฟล์นี้ไปแก้ไขด้วยแอป edjing Mix
3. แอป Acc to Mp3 ไว้สำหรับการแปลงไฟล์เสียงแบบ acc ให้เป็นไฟล์เสียงแบบ mp3 เพื่อนำไฟล์นี้ไปแก้ไขด้วยแอป edjing Mix
4. แอป edjing Mix แอปสำหรับการมิกซ์เสียงหรือผสมเสียงเข้าด้วยกัน เช่น เอาเสียงที่อัดไว้มาผสมกับเสียงแบคกราวด์คลอตาม เบาๆ
5. แอป mini movie สำหรับทำสไลด์โชว์หากเน้นการเล่าเรื่อง ซึ่งไม่เน้นการแสดงภาพอะไรนัก เช่น บทบรรยายธรรมะ คำสอน ข้อคิด ต่างๆ
6. แอป Kine Master แอปตัดต่อวิดีโอ สำหรับการทำวิดีโอ โดยเฉพาะ
ติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็นในคอมพิวเตอร์
การแก้ไขเสียง หรือตัดต่อวิดีโอ หากจัดการด้วยคอมพิวเตอร์จะทำได้ง่ายกว่า เร็วกว่า สะดวกกว่า
1. โปรแกรม audacity-win-2.1.0 ไว้สำหรับตัดเสียงรบกวน
2. โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ เช่น Windows Movie Maker, VDSC, Premiere, Sony Vegas เป็นต้น 3. ดาวน์โหลดเพลงแบคกราวด์ฟรี ซึ่งใน Youtube ก็มีแจกมากมาย เช่นที่
- https://www.olozmp3.net/Background+Music-mp3
- โหลดจาก Youtube https://www.youtube.com/audiolibrary/music?feature=blog
การอัดเสียงในมือถือ Android
การอัดเสียงในมือถือ Android สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะเราสามารถอัดเสียงได้ทุกที่ หรือหาสถานที่เงียบๆ หรือห้องอัดเพื่ออัด เสียงอย่างเป็นส่วนตัวได้ การอัดเสียงด้วยแอป ClearRecordLite จะให้เสียงที่ขัดพอสมควร โดยเฉพาะการอัดผ่านไมค์ในมือถือโดยตรง หรือจะอัดผ่านไมค์ในหูฟังก็ได้ หรืออาจจะหาไมค์สำหรับอัดโดยเฉพาะก็ได้
การแก้ไขเสียง ตัดเสียงรบกวน
การอัดเสียงด้วยแอป ClearRecordLite จะมีเสียงรบกวนหรือนอยซ์ (Noise) ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เมื่อนำไปมิกซ์กับเสียงแบคกราวด์ ด้วยแอป edjing Mix อาจจะเป็นเพลงบรรเลงเบาๆ ก็จะกลบเสียง จืดดดด เสียงรบกวนลงไปได้ไม่ยาก
การนำไฟล์เสียงไปตัดต่อทำวิดีโอ
สำหรับการนำไฟล์เสียงไปตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือ ควรใช้รุ่นที่เสป็คเครื่องดีๆ เพราะการทำวิดีโอจะใช้พลังเครื่องค่อนข้างมาก เครื่องแรงจะทำได้เร็วกว่า การทำวิดีโอก็มีตั้งแต่ง่ายๆ อย่างการทำสไลด์โดยนำเสียงบรรยายมาใช้ประกอบได้เลย หรือจะตัดต่อวิดีโอก็มีโปรแกรมดีๆ อย่าง KineMaster ให้ใช้ แต่จริงๆ ก็ควรจะไปทในคอมพิวเตอร์จะดีกว่า เร็วกว่า
อัพโหลดวิดีโอเข้า Youtube
ผู้ใช้มือถือหรือแท็บเล็ต Andorid ทุกคนจะต้องใช้อีเมล์ Gmail ซึ่งก็จะใช้อีเมล์นี้เข้าใช้งาน Youtube อัพโหลดวิดีโอเข้า Youtube ได้ ทันที
การสร้างรายได้จากทักษะ การเล่าเรื่อง การพูด การอ่าน ปัจจุบันสามารถทำเป็นอาชีพได้สบายๆ หากเสียงดี หรือเสียงไม่ดีก็ฝึกฝน ได้ แต่สิ่งสำคัญที่ยากกว่าก็คือข้อมูลหรือความรู้นั่นเอง ต้องศึกษาหาข้อมูลหรือพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ให้มีความรู้ที่จะเอามาเล่าให้ คนอื่นฟังได้
แชร์บทความนี้ :